เจี่ยวกู่หลาน ( สมุนไพรเพื่อการรักษา / Treatment Herb ) เป็นยาสมุนไพรที่ใช้กันมานานในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่เพิ่งมารู้จักและวิจัยทางวิชาการหลังปี พ.ศ. 2513 โดยมีคุณสมบัติในการรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นสมุนไพรที่สามารถรักษาสมดุลของร่างกายได้ดี
ตามตําราแพทย์แผนจีนใช้เป็นยารักษาโรคมะเร็งต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง จากการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งรับประทานนาน 3 เดือน ติดต่อกัน พบว่า 27 ราย ใน 30 ราย ได้ผลดีขึ้น ข้อมูลระบุว่า เจี่ยวกู่หลาน มีสรรพคุณช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง เช่น มะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งปากมดลูก และอีกหลายชนิดของมะเร็งรวมกว่า 20 ชนิด
นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติเด่นในการรักษาโรคได้อีกหลายโรค เช่น ลดไขมัน ลดนํ้าตาล ในคนไข้เบาหวาน ปรับระดับ ความดันให้เป็นปกติ (ลดความดัน) และช่วยรักษาสภาพ ของไต ของผู้ป่วย เบาหวานให้เป็นปกติและช่วยรักษาภาวะตับแข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากไวรัสตับอักเสบบีและซี
ปลูกบนภูเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 ฟูต มีสารชาโปนิน(กลุ่มสารจิบปิโนไซค์) เข้มขันกว่า 82 ชนิด ซึ่งมีมากกว่าที่มีในโสม 3-4 เท่า มีรสขมจัดสารมีฤกริ์ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง ลดอนุมูลอิสระ(สารก่อมะเร็ง) ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง โดยส่วนที่สำคัญอีกหนึ่ง คือ ซาโปนินมีคุณสมบัติในการลดอาการป่วยจาก โรคตับอักเสบและโรคเบาหวาน ช่วยกระตุ้นการสร้างอินซูลินจากตับอ่อนจึงช่วยลดน้ำตาลในกระแสเลือดได้
ประสิทธิภาพของสารซาโปนิน (กลุ่มสารจิบปิโนไซด์) ในสมุนไพร เจี่ยวกู่หลาน
1. โรคเบาหวาน : ลดน้ำตาลในโรคเบาหวานป้องกันภาวะไตและตาบอดจากโรคเบาหวาน 2. โรคความดัน : ลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ 110/70 และ120/80 mmHG ป้องกันภาวะเส้นเลือดแตก,ตีบ ,ต้นใน สมองซึ่งทำให้เกิด อัมพฤกษ์อัมพาต 3. โรคภูมิแพ้ : ช่วยลดอาการภูมิแพ้และแพ้ภูมิโรคพุ่มพวง(SLE)แพ้ฝุ่น แพ้อากาศ แพ้อาหาร บรรเทาอาการหอบหืด ฯลฯ 4. โรคเกี่ยวกับไขมัน : ลดไขมันร้าย เพิ่มไขมันดีในเลือด (ลดLDL, ลด cholesterol, ลด Triglyceride ,เพิ่มไขมันดี HDL, ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด) 5. โรคกระเพราะอาหารและลำไส้ : รักษาแผลในกระเพราะอาหารและลำไส้โดยการลดการหลั่งกรดน้ำย่อยและสมานแผล 6. โรคมะเร็ง : ลดอนุมูลอิสระ (สารก่อมะเร็ง)(ป้องกันโรคมะเร็ง, เพิ่มสารต้านมะเร็ง(SOD)258%, ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง 7. โรคเอดส์และมะเร็ง : เพิ่มภูมิต้านทานโดยการเพิ่มเม็ดเลือดขาวในผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดและฉายแสง 8. โรคโลหิตจาง : สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง(ป้องกันโรคโลหิตจาง.ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง) 9. โรคเกี่ยวกับตับ : ป้องกันภาวะตับแข็ง มะเร็งตับจากสุราไวรัสดับอักเสบบี.ซี โลหะหนักต่างๆและสารพิษต่างๆ 10. โรคเกี่ยวกับไขมัน : เพิ่มการเผาผลาญไขมัน ลดไขมันพอกตับลดน้ำหนัก และลดไขมันหน้าท้อง 11. โรคเกี่ยวกับวัย : ชะลอความแก่ ลดอนุมูลอิสระลดริ้วรอยผิวหนังเต่งตึง ผมหงอกช้าลง สารต้านอนุมูลอิสระสารปรับสมดุลร่างกาย 12. โรคเกี่ยวกับเพศ : เพิ่มการสร้างเชื้ออสุจิและน้ำอสุจิ ลดการเป็นหมันในผู้ชาย.เพิ่มสมรรถนะทางเพศทั่งหญิงและชาย 13. โรคกระดูกและฮอร์โมน : ปรับสมดุลฮอร์โมน(วัยทอง, ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ, กระดูกพรุน) 14. โรคเครียด,นอนไม่หลับ : และอื่น ๆ ชะลดอาการปวด/คลายกล้ามเนื้อ ลดเครียด ช่วยให้สุขภาพจิตดีทำให้นอนหลับสนิทขึ้น มีสมาธิทำให้เกิด พลัง มีความแข็งแรงและอดทน สำหรับนักกีฬาและผู้ใช้แรงงานมากและผู้ที่ทำงานหนัก
เจียวกู่หลานสายพันธุ์ แจแปนนิส 201 กับเบาหวานและนํ้าตาลในเลือด
โรคเบาหวาน เป็นโรคที่นิยมโรคหนึ่งของคนไทยเราครับ เกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่หลักๆแล้วคือร่างกายไม่สามารถ นํานํ้าตาลไปใช้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการผลิตฮอร์โมนอิซูลินไม่เพียงพอ ทําให้นํ้าตาลในเลือดสูงขึ้น ในระยะยา วนํ้าตาลจะไปสะสมในหลอดเลือดทําให้ หลอดเลือดเสียความยืดหยุ่นนําไปสู่ความผิดปรกติในอวัยวะอื่นๆตามมาหากไม่ได้รับการ รักษาอย่างต่อเนื่อง
การรักษาแผนปัจจุบันแพทย์ จะนิยมให้ยารักษาในกลุ่ม Biguanide (Metformin) และ Sulfonylurea ซึ่งต่อมาจะส่งผลให้มีการแข็งตัวของหลอดเลือด และ มีผลเสียต่ออวัยวะสําคัญเช่นตับ ไต และรักษาอาการได้เพียงลดระดับนํ้าตาลในเลือดให้ตํ่าลง จนในบางรายอาจจะมีอาการช็อก หรือระดับนํ้าตาลในเลือดตํ่าอย่างเฉียบพลัน
เจียวกู่หลานเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเป็น “Adaptogen” หรือสมุนไพรที่สามารถปรับสมดุลร่างกายและไม่มีพิษตกค้าง
1. เจียวกู่หลานมีฤทธิ์ไปกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนอินซูลินของตับอ่อน ในผู้ป่วยเบาหวาน ทำให้ผู้ป่วยสามารถผลิตฮอร์โมนเพื่อการควบคุมระดับนํ้าตาลด้วยตนเองอีกครั้ง โดยไม่เป็นอันตรายต่อตับ ไต และอวัยวะอื่นๆ 2. สามารถปรับลดระดับนํ้าตาลให้ตํ่าลงเพียงถึงระดับที่เหมาะสม โดยไม่ทำให้ผู้ป่วยช็อกทำให้ผู้ป่วยสามารถลดการใช้ยาที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ 3. เจียวกู่หลานช่วยลดการดูดซึม สารอาหารจำพวกแป้ง นํ้าตาล และไขมัน 4.เจียวกู่หลานสามารถช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดโดยเข้าไปสลายไขมันที่เกาะอยู่ที่ผนังหลอดเลือด เพื่อนำไปผลิตพลังงานและใช้เพื่อเป็นการตั้งต้นของการผลิตฮอร์โมนเพศ ซึ่งทำหน้าที่สำคัญเพื่อการเสริมสร้างมวลกระดูกในวัยทอง
อ้างอิง หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. (วิทยา บุญวรพัฒน์). “เจียวกู่หลาน(ปัญจขันธ์)”. หน้า 188.
ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. หนังสือเทิดไท้องค์ราชัน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ ๗ รอบ. “เจียวกู่หลาน”.
โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง, สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน). “เจียวกู้หลาน”. อ้างอิงใน: หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: eherb.hrdi.or.th. [03 ส.ค. 2014].
เดลินิวส์ออนไลน์. “ปัญจขันธ์…สมุนไพรหลากสรรพคุณ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.dailynews.co.th. [03 ส.ค. 2014].
เจียวกู่หลานสายพันธุ์ แจแปนนิส 201 กับ ไขมันในเลือด และโรคความดันโลหิต
การรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายอย่างชัดเจน การรับประทาน แป้งนํ้าตาล และไขมันในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ทำให้สารอาหารเหล่านั้นสะสมในร่างกายในรูป แบบของไขมัน ค่าปกติของไขมันอยู่ระหว่าง 140 – 200 mg/d ไขมันในเลือดสูงหมายถึงร่างกายเรามีไขมันในกระแสเลือดสูง ไขมันสูงจะเพิ่ม ความเสี่ยงต่อการเกิด
เจียวกู่หลานสายพันธุ์ แจแปนนิส 201 กับ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคอัมพาตเนื่องจากไขมันสูง
ไขมันจึงตกตะกอนที่ผิวของผนังหลอดเลือดซึ่งจะทำให้หลอดเลือดตีบและแข็งตัวส่งผลให้เกิดความดันในการสูบฉีดเลือดสูงขึ้น หรืออีกกรณีคือ คราบไขมันอาจจะหลุดลอยไปอุดหลอดเลือดทำให้ส่งผลถึงชีวิตได้ การรับประทานอาหารเค็มก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณนํ้าในเลือดสูง ทำให้มีความดันในหลอดเลือดเพิ่มขึ้นการรักษาในแผนปัจจุบันแพทย์จจะให้ยาขับปัสสาวะและยาขยายหลอดเลือดซึ่งเมื่อรับประทานในระยะยาวก็อาจจะก่อให้เกิด ภาวะไตวาย และหัวใจโต
เจียวกู่หลานเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ(Diuresis) โดยไม่ทำลายไต ลดไขมันในเลือดและสลายไขมันในหลอดเลือดเพื่อสร้างพลังงานและนำมาเป็นสารตั้งต้นของการสร้างฮอร์โมนเพศ ทำให้หลอดเลือดสะอาดและขยายหลอดเลือดให้มีความยืดหยุ่น (Vasodilate) โดยไม่มีผลข้างเคียงทำให้หัวใจโต ทั้งนี้ความดันโลหิตของผู้ป่วยจึงลดลงเพียงถึงจุดสมดุลอย่างเป็นรูปธรรม
อ้างอิง หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. (วิทยา บุญวรพัฒน์). “เจียวกู่หลาน (ปัญจขันธ์)”. หน้า 188.
ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข.หนังสือเทิดไท้องค์ราชัน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ ๗ รอบ. “เจียวกู่หลาน”.
เดลินิวส์ออนไลน์. “ปัญจขันธ์…สมุนไพรหลากสรรพคุณ”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.dailynews.co.th. [03 ส.ค. 2014].
http://siamhealth.net/public_html/Disease/heart_disease/Hypertension/cause.html#.VQ07FI6Ucuc
ถั่งเช่า
ถังเช่าหรือตังถังเช่า ( สมุนไพรเพื่อการฟื้นฟู / Rehabilitation Herb ) เป็นสมุนไพรจักรพรรดิ์หรือราชาแห่งสมุนไพรที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในจีนมาอย่างยาวนาน โดยมีหลักฐานและความเชื่อว่า ถังเช่ามีสรรพคุณเป็นยาแผนโบราณที่ใช้ในวังหลวงของจีนโบราณในเรื่องการฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศใช้เป็นยาบำรุงกำลัง และฟื้นฟูบำรุงอวัยวะภายในให้ทำงานเป็นปกติอยู่เสมอ คุณสมบัติของถังเช่าได้จากงานวิจัย เช่น เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด เพิ่มภูมิต้านทาน ต้านเชื้อแบคทีเรียก่อโรค และใช้ในการฟื้นฟู เซลล์ ตับ ไต และปอด ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ช่วยให้ระบบการทำงานของอวัยวะเหล่านี้เป็นปกติได้อย่างยาวนาน นอกจากนั้นยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีอาการภูมิแพ้ หอบหืด แพ้อากาศ โรคหัวใจ โรคตับ โรคเกี่ยวกับสมอง เพิ่มออกซิเจนให้สมอง จึงบรรเทาอาการของโรคอัลไซเมอร์ ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ สร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่า เป็นต้น
แพทย์จีนโบราณค้นพบและใช้สมุนไพรในการรักษาและบำรุงร่างกายมาเป็นเวลายาวนาน ทั้งยังจัดเป็นเครื่องเสวยขององค์จักรพรรดิ์และราชวงศ์มานับศตวรรษ ‘ถั่งเช่า’ (Cordyceps) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘หญ้าหนอน’ เป็นยาแผนโบราณที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในตำราแพทย์ของจีนมาช้านาน
ถั่งเช่าคืออะไร ‘ถั่งเช่า’ นั้นพบได้บริเวณแถบทุ่งหญ้าบนภูเขาสูงของประเทศจีน (ธิเบต) เนปาล และภูฏาน ซึ่ง ‘ถั่งเช่า’ ที่มาจากเทือกเขาหิมาลัยมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ได้มีคำอธิบายสมุนไพรชนิดนี้ว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” มีความหมายบ่งบอกวิวัฒนาการของมันว่า ตลอดฤดูหนาวจะมีหนอนชนิดหนึ่งฝังตัวอยู่ในหิมะ เมื่ออากาศเปลี่ยนนํ้าแข็งเริ่มละลาย ก็จะมีเห็ดอีกชนิดหนึ่งปล่อยสปอร์ออกมาเพื่อการขยายพันธุ์ โดยจะถูกพัดพาไปตกอยู่ตามพื้นดิน แล้วตัวหนอนที่เคยฝังตัวในหิมะเหล่านี้หลุดออกจากจำศีลขึ้นมาหาอาหารก็จะกินสปอร์เข้าไป เมื่อเวลาผ่านไปถึงฤดูร้อนสปอร์ก็จะเริ่มเจริญเติบโตโดยอาศัยการดูดสารอาหารและแร่ธาตุจากตัวหนอน จากนั้นเห็ดก็จะเริ่มงอกออกจากตัวหนอน เนื่องจากเห็ดเหล่านี้ต้องการแสงอาทิตย์มันจึงงอกพุ่งขึ้นสู่พื้นดินโดยงอกออกจากปากของตัวหนอน ส่วนตัวหนอนเองก็จะค่อย ๆ อ่อนแรงลง ดังนั้นถั่งเช่าที่นำมาใช้ทำเป็นยาก็คือ ส่วนผสมของตัวหนอนและเห็ดที่แห้งแล้วนั่นเอง
นับเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่วงจรของหนอนชนิดนี้ได้กลายมาเป็นต้นกำเนิดของสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์หลายประการ สำหรับการนำมารับประทานนั้น มีทั้งรับประทานสด ๆ นำมาต้ม ตุ๋น หรือบดเป็นผงแล้วบรรจุในแคปซูลเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น
จากการศึกษางานวิจัยหลายชิ้นเกี่ยวกับผลทางชีวภาพและฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของถั่งเช่ามีมากมายจึงทำให้ ‘ถั่งเช่า’ เป็นสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำงานดีขึ้นกว่า 20 ปีที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครค้นพบด้านลบหรือผลข้างเคียงใด ๆ ที่เป็นอันตรายของ ‘ถั่งเช่า’ เลย เว้นเสียจะเกิดขึ้นในบางกรณีของคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องของตัวเองอยู่แล้วเท่านั้น
สรรพคุณของถั่งเช่า 1. ลดระดับนํ้าตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานและลดคอเลสเตอรอล 2. ช่วยการทำงานของตับในเรื่องของดีท็อกซ์ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไตให้ดีขึ้น 3. สร้างโปรตีนชนิดสำคัญ ที่ช่วยกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศทั้งหญิงและชาย ซึ่งได้รับสมญานามอีกอย่างหนึ่งว่า “ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” 4. ต้านอาการอ่อนเพลียและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย 5. กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
กระแสความนิยมบำรุงสุขภาพด้วยการรับประทานสมุนไพรจีนเพื่อบำรุงร่างกายมีมากขึ้น ซึ่ง ‘ถั่งเช่า’ เองนั้นเป็นอีกหนึ่งชนิดของอาหารเสริมสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงร่างกายให้แข็งแรง เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่คนหนุ่มสาวจนกระทั่งผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการปรับสมดุลในช่วงวัยทอง
สำหรับการเลือกซื้อ ‘ถั่งเช่า’ นั้น “ปัจจุบันในตลาดจะมีทั้งแบบธรรมชาติหรือการเพาะเลี้ยงเองเป็นทางเลือกมีสายพันธุ์มากกว่า 600 สายพันธุ์ ซึ่งจากการทดสอบนั้น ‘ถั่งเช่า’ สายพันธุ์ Cordyceps Sinesis จะออกฤทธิ์ได้ดีที่สุด และมีผลวิจัยยืนยันชัดเจน การเลือกรับประทานสมุนไพร ‘ถั่งเช่า’ เป็นอาหารเสริมนั้น จึงควรเลือกจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ผ่านกรรมวิธีที่ถูกต้อง”
ข้อมูล : นพ.สุริยา ธีรธรรมากุล แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาล กรุงเทพ
เห็ดหลินจือแดง
เห็ดหลินจือ ( สมุนไพรเพื่อการป้องกัน / Protection Herb ) เป็นราชาแห่งสมุนไพรจีน ที่มีการใช้บำรุงร่างกายมานานกว่า 2,000 ปี ได้รับการบันทึกสรรพคุณไว้ในคัมภีร์จีนโบราณว่าเป็นเทพเจ้าแห่งชีวิต เป็นยาอายุวัฒนะ และเป็นเห็ดเทพเจ้าแห่งชีวิต นอกจากจะช่วยบำรุงร่างกายแล้วยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งด้วย มีหลากหลายงานวิจัยที่พบว่าเห็ดหลินจือมีประโยชน์หลายอย่างมาก เพราะออกฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกายโดยตรง เป็นยาบำรุงร่างกายบรรเทาอาการอ่อนเพลีย แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง รักษาโรคหัวใจ และช่วยให้นอนหลับ ต่อต้านเชื้อไวรัสเริม งูสวัด และเชื้อ HIV ลดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้เคมีบำบัด และรังสีบำบัดในผู้ป่วยโรคมะเร็ง และที่สำคัญเห็ดหลินจือยังมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการป้องกันโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเพราะทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันดี
จากรายงานวิจัยเรื่อง G. lucidum (Reishi mushroom) for cancer treatment4 ได้มีการทบทวนงานวิจัย ที่มีการใช้ เห็ดหลินจือในการใช้ประกอบการรักษาโรคมะเร็งในคน เนื่องจากในปัจจุบันผู้ป่วยโรคมะเร็งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มีการใช้การรักษาแผนปัจจุบันที่ประกอบด้วย การใช้ยาเคมี บำบัดและการฉายแสง ผู้ป่วยบางคนอาจมีอาการแพ้เคมีบำบัด หหรือมีผลข้างเคียงต่อการฉายแสง ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมาก หันไปหาการรักษาโดยแพทย์ทางเลือก เช่น การแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีน เป็นต้น เพื่อใช้เป็นการลดผลข้างเคียงจาก การรักษาแผนปัจจุบัน หรือใช้ร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน เพื่อเสริมการรักษาโรคมะเร็งให้ได้ผลลัพธ์ในการรักษาโรค มะเร็งที่ดียิ่งขึ้น
ข้อมูลจากงานวิจัยในหลอดทดลองและการวิจัยในระดับพรีคลินิก3, 5 มีผลการศึกษาที่เป็น ที่น่าพอใจของเห็ดหลินจือ ต่อเซลส์มะเร็ง แต่ผลการวิจัยในผู้ป่วยยังมีจำนวนจำกัด จากงานวิจัย G.lucidum(Reishimushroom) forcancer treatment ได้มีการทดองวิจัยในคนจากหลาย ๆ งานวิจัยพบว่า สารสกัดเห็ดหลินจือ เมื่อใช้เป็นยารักษาโรค มะเร็งตัวเดี่ยว จะไม่ได้ผลต่อการรักษามะเร็งเท่าที่ควร แต่เมื่อ ใช้สารสกัดเห็ดหลินจือร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน ทำให้การตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาเคมีบาบัดและการฉายรังสีดีขึ้นถึง 1.27 เท่า
นอกจากนี้ สารสกัดเห็ดหลินจือยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน โดยเพิ่มจำนวนของเม็ดเลือดขาวชนิด CD3, CD4 และ CD8 แต่กระนั้น natural killer (NK)-cell activity ซึ่งแสดงถึง ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อโรคมะเร็ง ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ผู้ป่วยโรคมะเร็งในกลุ่มที่ใช้สารสกัดเห็ดหลินจือ ในสูตร รักษามะเร็งร่วมด้วย จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้ สารสกัดเห็ดหลินจือร่วมด้วยในปัจจุบันยังไม่มีการแนะนำให้ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือในมาตรฐานการรักษาโรคมะเร็งแต่ในส่วนของการแพทย์ แผนจีนและการแพทย์ทางเลือก ก็ได้มีการใช้สารสกัดเห็ด หลินจือเสริมเข้าไปในสูตรการรักษาโรคมะเร็ง เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ของร่างกายต่อโรคมะเร็ง และลดผลข้างเคียงจากการให้ยา เคมีบาบัดและการฉายแสงในการรักษาโรคมะเร็ง
References
1. Anticancer effects of Ganoderma lucidum: a review of scientific evidence. Yuen JW1, Gohel MD. Nutr Cancer. 2005; 53(1):11-7.
2. Anticancer and Anti-Inflammatory Properties of Ganoderma lucidum Extract Effects on Melanoma and Triple-Negative Breast Cancer Treatment. Barbieri A, et al. Nutrients. 2017.
3. Anti-Tumor Effects of Ganoderma lucidum (Reishi) in Inflammatory Breast Cancer in In Vivo and In Vitro Models Ivette J. Suarez-Arroyo,1 Raysa Rosario-Acevedo,1 Alexandra Aguilar-Perez, 1 Pedro L. Clemente,1 Luis A. Cubano, 2 Juan Serrano, 3 Robert J. Schneider, 4 and Michelle M. Martínez-Montemay PLoS One. 2013; 8(2): e57431.
4. Ganoderma lucidum (Reishi mushroom) for cancer treatment. Jin X, Ruiz Beguerie J, Sze DMY, Chan GCF. Cochrane Database of Systematic Reviews 2016, Issue 4.
5. Anti-cancer activities of Ganoderma lucidum: active ingredients and pathways Chi Kao, Amalini C. Jesuthasan, Karen S. Bishop, Marcus P. Glucina, Lynnette R. Ferguson Functional Foods in Health and Disease 2013; 3(2):48-65 ปีที่ 42 ฉบับที่ 2 มีนาคม–เมษายน 2560023